วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2554

อดีตนายกทักษิณ ให้ความหวัง มุสลิมไทย กว่า 7,000คนได้ไปฮัจย์ - 2,000 ปีนี้ ในมือกรมศาสนายังใบ้กิน



มุสลิมไทยดอทคอม : 12 มิย. 54 21:55:56


สำนักข่าวมุสลิมไทย อดีตนายกทักษิณ ให้ความหวัง มุสลิมไทย กว่า 7,000คนได้ไปฮัจย์ - 2,000 ปีนี้ ในมือกรมศาสนายังใบ้กิน

ตัวแทนผู้ประกอบกิจการฮัจย์และผู้นำกลุ่ม (แซะห์ ) เดินทางไปเมืองดูไบ เข้าพบและเยี่ยมอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร กว่า 1 ชั่วโมง

ผู้สื่อข่าวพิเศษมุสลิมไทยรายงานจากเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ว่า เมื่อไม่นานมานี้ ทางตัวแทนผู้ประกอบกิจการฮัจย์และผู้นำกลุ่ม ( แซะห์ ) ได้เดินทางไปเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ด้วยสายการบินเอมิเรตส์ จำนวน 18 คน และพักที่เมืองดูไบ จำนวน 1 คืน เพื่อนัดพบและเยี่ยมเยียนอดีตนายกทักษิณ และใช้เวลาการพูดคุยในเรื่องต่างๆในหลายประเด็น

โดยสรุปคือ
- ท่านได้พูดถึงว่าท่านนั้นมีความเข้าใจประเทศมุสลิม และวิถีชีวิตของพี่น้องมุสลิมมากขึ้น เนื่องจากช่วงที่ท่านลำบากพี่น้องมุสลิมอำนวยความสะดวกให้สถานที่พักพิง

- อดีตนายกยังเล่าอีกว่า มีประเทศมุสลิมหลายประเทศที่เสนอจะให้ทุนการศึกษา เพื่อเรียนต่อในต่างประเทศแก่พี่น้องมุสลิมเพื่อยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตและพัฒนาบุคลากรคนรุ่นใหม่ เพื่อกลับมาพัฒนาประเทศชาติต่อไป และสนใจที่จะร่วมลงทุนในกิจการของรัฐบาลไทย ที่กำลังจะดำเนินการตามแผนพัฒนาฯในจังหวัดชายแดนใต้



- ในส่วนของผู้ประกอบกิจการฮัจย์และผู้นำกลุ่ม(แซะห์) ที่ได้เดินทางไป ได้เล่าให้ท่านอดีตนายกฯรับทราบว่า ขณะนี้ความเดือดร้อนของพี่น้องมุสลิม ที่ลงทะเบียนจะเดินทางไปประกอบพีธีฮัจยืประจำปี 2554 ที่ยังอยู่นอกโควต้าจำนวนมาก ประมาณ 7,700 คนกว่า ซึ่งได้ชำระเงินครบถ้วนสมบูรณ์กับกรมการศาสนา ท่านละ 50,000 บาท และเมื่อมีคลิปของท่านได้พูดถึงเรื่อง กิจการฮัจย์ของพี่น้องมุสลิมในประเทศไทยที่มีปัญหามาตลอดโดยเฉพาะจำนวนโควตา หรือ บ้านพักอาศัยในเทศกาลฮัจย์ ที่ถูกแพร่หลายในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้

และท่านฯได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ที่ดีของท่านกับราชวงศ์ ที่ได้มีโอกาสช่วยเหลือดูแลโครงการฯ ให้คำปรึกษาของประเทศซาอุดีอาราเบีย ในฐานะตัวแทนผู้ประกอบการฯจึงตัดสินใจเดินทางมาพบท่านเพื่อประสานงาน หาแนวทางให้พี่น้องมุสลิมสามารถเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ได้ทั้งหมดในปีนี้

ส่วนในปีต่อไปนั้นขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ที่จะมาดูแลในกิจการฮัจย์และให้ความสำคัญที่จะแก้ปัญหาในเรื่องนี้ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มงบประมาณ กองทุนสำรองเพื่อเช่าบ้านในเทศกาลฮัจย์ที่ท่านได้กรุณาพิจารณาอนุมัติในสมัยของท่านเป็นจำนวนเงิน 300 ล้าบาท และอาจจะต้องมีการพิจารณาพระราชบัญญัติส่งเสริมกิจการฮัจย์ ( แก้ไข เพิ่มเติม ) รูปแบบการลงทะเบียนผู้แสวงบุญประจำปี การขนส่งผู้โดยสารสำหรับผู้แสวงบุญและราคาบัตรโดยสารที่เป็นธรรม เงือนไขและรูปแบบการเช่าที่พัก ( โรงแรมและบ้านในเมืองมักกะห์และเมืองอัลมาดีนะห์ ) และการอำนวยความสะดวกภาคสนามของหน่วยพยาบาลไทยและคณะกรรมการอำนวยความสะดวกสำหรับผู้แสวงบุญ ( แบะอฺซะห์ )

อดีนนายกฯยังได้กล่าวอีกว่า ท่านนั้นได้ติดหนี้บุญคุณพี่น้องมุสลิมและ ประเทศมุสลิมที่ได้ให้ความช่วยเหลือให้สถานที่พักพิงในยามที่ท่านลำบากและเข้าใจวิถีชีวิตของมุสลิมมากขึ้น

หลังจากคณะของตัวแทนผู้ประกอบการฯและผู้นำกลุ่ม(แซะห์) ได้เดินทางเยี่ยมคารวะท่านกงสุลใหญ่ นายชาลี สากลวารี ณ เมืองเจดดาห์ ที่ทำเนียบกงสุลใหญ่ เพื่อติดตามจำนวนโควต้าที่ทางตัวแทนผู้แทนฮัจย์ไทยได้ทำหนังสือยื่นขอจำนวนเพิ่มเติมอีก 2,000 คน และได้รับการชี้แจงและอธิบายจากท่านกงสุลใหญ่อย่างละเอียด

และท่านกงศุลใหญ่ได้แนะนำให้คณะตัวแทนผู้ประกอบการฯไปพบ หารือกับผู้รับผิดชอบผู้ดูแลกิจการฮัจย์ของประเทศซาอุดีอาราเบียที่รับผิดชอบดูแลกิจการฮัจย์ของพี่น้องมุสลิมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประกอบด้วยหลายประเทศ ซึ่งมีประเทศไทย สังกัดอยู่ด้วย

ซึ่งผู้รับผิดชอบผู้ดูแลกิจการฮัจย์ของประเทศซาอุดีอาราเบียได้กล่าวว่า การติดตามและคำตอบที่ชัดเจนในเรื่อง จำนวนโควต้าที่ได้ขอเพิ่มเติมอีก 2,000 คน นั้น คงจะได้รับการพิจารณาในเร็ววันนี้ อาจจะเป็นก่อนเดือนรอมฎอน หรือ ในเดือนรอมฎอน ( ซึ่งปีนี้จะตรงกับเดือนสิงหาคม )

และผู้รับผิดชอบผู้ดูแลกิจการฮัจย์ของประเทศซาอุดีอาราเบียได้กล่าวขอบคุณ และมีความรู้สึกดีใจ และยินดีที่ทางตัวแทนผู้ประกอบการฯจากประเทศไทยมาพบปะ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหาแนวทางในการพัฒนากิจการฮัจย์ของพี่น้องมุสลิมในประเทศไทย ซึ่งพวกเราจะต้องช่วยกันดูแลเป็นกรณีพิเศษและยกระดับการพัฒนา ด้านการบริการให้กับพี่น้องมุสลิมต่อไป ซึ่งถือว่า เป็นภารกิจร่วมกัน

www.muslimthai.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น